ReadyPlanet.com


วัดพระบาทน้ำพุ..อ่อนแรง รายจ่าย 3.5 ล้าน/เดือน


โครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอดส์ (UNAIDS) รายงานสถานการณ์ ผู้ป่วยเอดส์ทั่วโลกไว้ว่า (พ.ศ.2546) ทั่วโลกมีผู้เป็นเอดส์ทั้งสิ้น กว่า 38 ล้านคน ในจำนวนนี้ เป็นผู้ใหญ่ประมาณ 31 ล้านคน เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี อีกกว่า 7 ล้านคน ในปีเดียวกันทั่วโลก มีผู้ป่วยเอดส์ตายไป กว่า 3 ล้านคน ข้อมูลของยูเอ็นเอดส์ยังระบุ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ผู้หญิง เป็นกลุ่มที่ติดเชื้อเอชไอวี มากขึ้นในทุกภูมิภาคของโลก โดยเฉพาะผู้หญิงในเอเชียตะวันออก มีอัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 56% รองลงมา คือ ผู้หญิงในยุโรปตะวันออก และเอเชียกลาง ปัจจุบัน ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี (ยังไม่ป่วยเป็นโรคเอดส์) สูงถึง 39.4 ล้านคน เทียบกับเมื่อปี 2545 มีเพียง 36.6 ล้านคน และปี 2546 มีอยู่แค่ 38 ล้านคน ปัจจุบันทวีปเอเชีย มีอัตราเพิ่มของผู้ติดเชื้อมากกว่า 50% จีน อินเดีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม เป็นประเทศต้นๆที่ได้รับเชื้อเพิ่ม เฉพาะรัสเซียประเทศเดียว ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีไม่ต่ำกว่า 860,000 คน ในบรรดาผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั่วโลก เกือบ 40 ล้านคน ผู้ติดเชื้อประมาณ 37 ล้านคน มีอายุระหว่าง 15-49 ปี ในจำนวนนี้เป็น เพศหญิง เกือบครึ่ง โดยเฉพาะผู้หญิงทั่วโลก ที่อยู่ในวัยตั้งแต่ 15-24 ปี กลายเป็นเหยื่อเอดส์รายใหม่ เพิ่มขึ้นถึง ร้อยละ 60 และเยาวชนหญิง วัยระหว่าง 15-19 ปี เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ ร้อยละ 56 มีรายงานว่า เฉพาะทวีปแอฟริกา แถบทะเลทรายซาฮารา พบการติดเชื้อเอชไอวีในผู้หญิงสูงถึง 13.3 ล้านคน ปี 2547 ไม่เพียงสตรีและเยาวชนทั่วโลก มีแนวโน้มติดเชื้อเอชไอวี เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่าย ในการรับมือกับโรคเอดส์ทั่วโลกยังเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า เทียบกับปี 2544 ประมาณการว่า ทั่วโลกต้องใช้เงินรับมือกับปัญหาเอดส์ ไม่ต่ำกว่า 2,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ปีนี้ มีผู้ประมาณการว่า ทั่วโลกต้องใช้เงินเพิ่มขึ้นเป็น 6,100 ล้านเหรียญฯ หรือประมาณ 244,000 ล้านบาท สำหรับเมืองไทย ประมาณการเมื่อต้นปี 2547 เชื่อว่ามีผู้ติดเชื้อ HIV (ยังไม่ป่วยเป็นโรคเอดส์) รวมทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 1,074,000 ราย (ข้อมูลจากวัดพระบาทน้ำพุ) ในจำนวนนี้ เกินกว่าครึ่ง หรือ 572,000 ราย ยังมีชีวิต และต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด เป็นที่ทราบ โรคเอดส์เกิดขึ้นในโลกนี้มานานกว่า 20 ปี คร่าชีวิตผู้คนไปนับไม่ถ้วน แต่จนถึงวันนี้ ยังไม่มีใครสามารถหยุดยั้งโรคนี้ได้ ทั้งยังไม่มีใครสามารถทำนายได้ว่า “เอดส์” จะหมดไปจากโลกได้อย่างไร และเมื่อไหร่ ล่าสุด สหประชาชาติยกย่องให้เมืองไทย เป็นประเทศที่มีมาตรการในการ รณรงค์ป้องกัน โรคเอดส์ได้ผลดีประเทศหนึ่งของโลก แต่ภายใต้ยาหอมดังว่า ปัญหาเอดส์ในเมืองไทย กลับไม่ต่างจากภูเขาน้ำแข็งที่จมอยู่ใต้น้ำ ลำพังรัฐบาลไม่มีปัญญาแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด ต้องอาศัยเอกชนจำนวนมาก เข้าไปให้ความช่วยเหลือ ทั้งในบริบทและมิติที่หลากหลาย วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี ปัจจุบันไม่เพียงมีชื่อในด้านให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ ทั้งในระดับประเทศและสากล ยังเป็นเสมือนแหล่งรวมพลคนเป็นเอดส์ใหญ่สุดของโลก นับแต่วัดนี้ เริ่มเปิดรับผู้ป่วยเอดส์ครั้งแรก เมื่อปี 2535 ต้องเผชิญกับสารพันปัญหา พระอุดมประชาทร หรือหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาส ต้องใช้ความเพียรพยายามอย่างหนัก กว่าที่สังคมจะเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้ป่วย แต่ยิ่งวัดนี้จัดระบบให้การดูแลผู้ป่วยดีเพียงไร ดูเหมือนปัญหาเอดส์จากทั่วสารทิศ ยิ่งหลั่งไหลรุมเร้า กลายเป็นภาระหนักอึ้งให้หลวงพ่อ มากขึ้นทุกขณะ นับจากวันแรกที่วัดพระบาทน้ำพุ เปิดประตูต้อนรับผู้ป่วยเอดส์ หมายเลข 1 จวบจนวันนี้ เป็นเวลาครบ 12 ปีเต็ม เฉลิมพล พลมุข ผู้จัดการโครงการธรรมรักษ์นิเวศน์ วัดพระบาทน้ำพุ อยากใช้วาระนี้นำบางประสบการณ์ที่หวานอมขมกลืน กลับมาใคร่ครวญ เขาตัดพ้อว่า จะมีใครสนใจบ้างหรือไม่ ทุกวันนี้สถานการณ์ในวัดพระบาทน้ำพุเป็นอย่างไร ผู้ป่วยยิ่งทวีจำนวน ชีวิตความเป็นอยู่ของคนเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร ข้าวของเครื่องใช้ในการดูแลผู้ป่วย ได้มาจากไหน “ทุกวันนี้หลวงพ่อต้องรับผิดชอบดูแลคนในวัด ไม่ต่ำกว่า 1,000 ชีวิต” ผู้จัดการหนุ่มเว้นจังหวะ “ทุกเดือนท่านมีภาระต้องหาเงิน ไม่ต่ำกว่า 3,500,000 บาท หรือเฉลี่ยวันละ 116,000 กว่าบาท มาใช้จ่ายในวัด” เขาว่า ฟังเหมือนวัดนี้ใช้เงินมือเติบ...แต่ใครไม่รู้ ไม่เคยสัมผัสความเป็นไปใกล้ชิด ยากจะเข้าใจ “แค่ค่ายา ค่าอาหาร ค่าบริหารจัดการ เงินเดือนเจ้าหน้าที่ และค่าเผาศพ แต่ละเดือนแทบไม่เหลือ ช่วง 4-5 ปีมานี้ ยังมีกลุ่มคนและองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน ดาหน้าเข้าไปขอรับ ความอนุเคราะห์จากหลวงพ่อ แทบไม่เว้น” “มีทั้งขอเงินไปซื้อคอมพิวเตอร์ ซื้อแอร์สำนักงาน ขอให้ท่านช่วยสร้างอาคารสถานที่ให้ และขออะไรต่อมิอะไรอีกมาก ใครก็รู้ หลวงพ่อเปี่ยมล้นด้วยเมตตา คนที่ขอได้สมหวัง กลับไปดีใจหน้าบาน พวกไม่สมหวังก็เอาท่านไปนินทาว่าร้าย” เฉลิมพลเล่าว่า ภารกิจอันเกิดจากรายจ่ายของวัด เฉลี่ยเดือนละ 3.5 ล้านบาท บีบคั้นให้แต่ละวัน หลวงพ่ออลงกตต้องออกจากวัดตั้งแต่ ตี 2 ตี 3 เพื่อไปบิณฑบาตข้าวสาร อาหารแห้ง จตุปัจจัยจากประชาชนตามที่ต่างๆ เพื่อนำไปเลี้ยงดูผู้ป่วยเอดส์ และขับเคลื่อนให้องค์กร สามารถยืดลมหายใจ อยู่รอดไปวันๆ วัดพระบาทน้ำพุ ได้เงินอุดหนุนจากรัฐบาล ดูแลผู้ป่วยเอดส์ ปีละ 9 แสนบาท “ถ้านี่คือการทำธุรกิจ ป่านนี้วัดพระบาทน้ำพุเจ๊งไปนานแล้ว บางวันมีเงินบริจาคเข้าวัดยังไม่ถึง 3,000 บาท แต่สิ่งที่ทำให้คนในวัดนับพันชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ คือ ข้าวสาร อาหารแห้ง จากผู้มีจิตศรัทธาที่ใส่บาตรหลวงพ่อ” เฉลิมพลบอกว่า 12 ปีที่ผ่านมา “หลวงพ่ออลงกต” ทำงานหนักมาตลอด ทำให้หมู่นี้สุขภาพของท่านเริ่มอิดโรย เศรษฐกิจของประชาชนส่วนใหญ่ก็อยู่ในช่วงขาลง พลอยให้สถานการณ์ของวัดพระบาทน้ำพุต้องอยู่ในช่วงขาลงไปด้วย “12 ปีที่ผ่านมา ยอดคนป่วยมีแต่เพิ่ม โรงพยาบาลของรัฐก็รับไม่ไหว คนเหล่านี้ไม่มีที่จะไปและไม่สามารถกลับไปอยู่กับครอบครัว คนเป็นเอดส์ นอนกันเกลื่อนวัด เด็กเล็กๆรอทั้งข้าว นม และของเล่น รัฐบาลก็ขาดความจริงใจจะดูแล” “ลำพังหลวงพ่อรูปเดียว ต้องหาเงินมาดูแลให้คนเป็นเอดส์ อยู่ฟรี กินฟรี ตายก็เผาให้ฟรี เดือนละ 3 ล้านกว่าบาท นับเป็นเรื่องสาหัส” ผู้จัดการโครงการธรรมรักษ์ฯทิ้งท้ายว่า “สถานการณ์ขาลงเช่นนี้ ในอนาคต วัดจะอยู่ดูแลคนเป็นเอดส์ ได้อีกนานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับประชาชนทั้งประเทศจะเป็นผู้ตัดสิน”. จาก : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ในการดูแลรักษาผู้ป่วย ทุนในการให้การศึกษา และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งท่านสามารถบริจาคโดยโอนเงินผ่านธนาคาร ดังนี้.- ทางธนาคารโดยเข้าบัญชี “กองทุนอาทรประชานาถ” ธนาคารกรุงเทพ สาขาลพบุรี เลขที่บัญชี 289-0-84697-1 ธนาคารทหารไทย สาขาลพบุรี เลขที่บัญชี 304-2-41277-9 ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนสุรสงคราม เลขที่บัญชี 174-2-39000-0 ธนาคารไทยพานิชย์ สาขาลพบุรี เลขที่บัญชี 579-2-33730-7 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาลพบุรี เลขที่บัญชี 111-1-47300-7 ธนาคารนครหลวงไทย สาขาลพบุรี เลขที่บัญชี 340-2-14976-0 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขานางเลิ้ง เลขที่บัญชี 000-2-12022-0 หรือจะติดต่อโดยตรงกับ พระอุดมประชาทร วัดพระบาทน้ำพุ ลพบุรี โทรศัพท์ 0-1831-3441 หรือ 036-413805 ต่อ 106 โทรสาร 036-422600 http://www.phrabatnampu.com/


ผู้ตั้งกระทู้ waraporn ขออนุญาติเอามาลงนะค่ะ :: วันที่ลงประกาศ 2008-02-18 01:29:01


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2400709)

ยาสมุนไพรยับยั้งเชื้อ H.I.V

 

พบยาสมุนไพรไทยที่จังหวัดขอนแก่นมีสรรพคุณในการทำให้ภูมิคุ้มกันดีขึ้นมากและมีอาการดีเกือบปรกติภายใน 1-2เดือน รายละเอียดกรุณาอ่านรายละเอียด

 

     นาง บุญเหลือ โยธานันท์ อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 144/1 หมู่ 18 .สาวะถี อ.เมือง จ.ของแก่น

     คนไข้ติดเชื้อ เอช ไอ วี กับสามีคือ นาย อำพร โยธานันท์ ประมาณ 9 ปีแล้ว นาย อำพร ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 2 มี.2546 ต่อมาลูกชายคนโตคือ ด.ช ขวัญชัย โยธานันท์ อายุ 10 ปี ได้เสียชีวิตเพราะติดเชี้อไปอีก 1 คน เมื่อวันที่ 21 .. 46

     คงเหลือแต่ นาง บุญเหลือ กับลูกชายคนเล็กอีก 1 คน คือ ด.ช สลักใจ โยธานันท์อากาของนาง บุญเหลือก่อนที่จะทานยาสมุนไพรคือวิงเวียนศรีษะ หน้ามืด อ่อนเพลีย น้ำลายเหนียว เบื่ออาหาร นอนไม่หลับจนต้องทานยาระงับประสาท จากโรงพยาบาล คนไข้ไม่เคยรับประทายาต้านไวรัสเอดส์เลย ตัวซีดเซียว และจะมีฝีเม็ดขนาดลูกมะนาวขึ้นตามบริเวณใต้รักแร้ โคนขา หรือบริเวณที่ผิวหนังอ่อน ตอนก่อนประจำเดือนจะมาทุกๆเดือน จนเป็นแผลเป็นเป็นจ้ำๆ น้ำหนักตัว 51 .. ผลการตรวจเม็ดเลือดขาวมีประมาณ 200อาการหลังจากรับประทานยาสมุนไพร

     คนไข้เริ่มทานยาสมุนไพรเมื่อวันที่ 2 .2548 โดยต้มดื่มแทนน้ำตลอดเวลา ทานสัปดาห์แรกคนไข้มีอาการร้อนวุบวาบไปทั้งตัวและเหงื่อออก แต่ประมาณ 5 นาที อาการดังกล่าวก็หายไป ปรากฏว่าอาการของคนไข้ดีขึ้นคือ ไม่มีอาการตามที่กล่าวมาข้างต้นอีก คนไข้น้ำหนักตัวขึ้น 63 .ก ทานอาหารได้ นอนหลับ มีอาการเหมือนคนปกติ ฝีที่เคยขึ้นก็ยุบหายไปหมด ประจำเดือนก็มาปกติ

     ผลเลือดเมื่อวันที่ 21 มิ.2548 คือ CD 4=618(22.77) คนไข้ทานยาต้มมาตั้งแต่วันที่ 2 .2548 จนถึงเดือน มิ.2548 คนไข้ได้ไปตรวจ หาเชื้อ เอช ไอ วี ในเลือดปรากฏว่ายังมีอยู่ แต่คนไข้ยืนยันว่าตัวเองมีอาการดีขึ้นมากเพราะยาต้มสมุนไพร จึงขอรับประทานต่อไปเผื่อว่าตัวเองจะมีโอกาสหายจากโรคนี้ในอนาคต

    อันนี้เป็นการยืนยันจากปากคนไข้เองเพราะว่าเพื่อนที่เป็นพร้อมกันแต่เขาทานยาต้านไวรัสเอดส์ตรงกันข้ามกับนาง บุญเหลือ ซึ่งทานยาต้มสมุนไพรแต่เพื่อนได้เสียชีวิตไปหมดแล้ว เหลือแต่ตัวเองที่อาการดีมากเหมือนคนปกติทั่วไป

อยากได้รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ คุณ ธิดา อึ้งนภารัตน์ 083-3459197 ที่จังหวัดขอนแก่นครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ding วันที่ตอบ 2008-05-05 09:13:28


ความคิดเห็นที่ 2 (2863581)

ขอหมายเลขบัญชีครับ อยากบริจาคครับ  เจม เว็บซฺโด้แก็ง

sporttimer@gmail.com

ผู้แสดงความคิดเห็น เจม เด็กอยุธยา (sporttimer-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2008-06-21 23:29:32


ความคิดเห็นที่ 3 (2876383)

      ข่าวประชาสัมพันธ์

        ลูกค้า บ.ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด ร่วมบริจาคสติ๊กเกอร์เพื่อช่วยเหลือวัดพระบาทน้ำพุ

                                                   

 

         ดร.กฤษณะพล โกมลบุณย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯได้จัดรายการส่งเสริมการขายภายใต้ชื่อรายการแวะเจ็ท-จิฟฟี่ ซัมเมอร์นี้ลดมากกว่า ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. – 31 พ.ค.2551 และได้เชิญชวนให้ลูกค้าทำบุญร่วมกันโดยการบริจาคสติ๊กเกอร์แลกรับส่วนลดแทนเงินสดเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนกิจกรรมของวัดพระบาทน้ำพุ และเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งเนื่องจากมีลูกค้าจำนวนมากที่สนใจโครงการนี้และได้ร่วมบริจาคสติ๊กเกอร์อย่างล้นหลาม ซึ่งได้ยอดบริจาครวมทั้งหมดแล้วเป็นเงินทั้งสิ้นสูงถึง 2,925,201 บาท

 

            ทั้งนี้บริษัท ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด ได้ดำเนินการมอบเงินบริจาคตามจำนวนข้างต้นให้กับตัวแทนจากวัดพระบาทน้ำพุ ณ อาคารสำนักงานของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2551 ที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น ฝ่ายประชาสัมพันธ์ PTTRM วันที่ตอบ 2008-07-15 19:26:53


ความคิดเห็นที่ 4 (3184359)

โทษทีนะคับตอนนี้ผมกุ้มใจมากคับผมเองก็อายุ23ปีเเล้วเเล้วมีน้องอีก2คนเเล้วผมเคยไปบริจากเลือดที่สภากาชาติรับบริจากเเล้วก็ไปให้เลือดเพราะมีเด็กเกิดให่ต้องการเลือดเเต่ก็ไม่เห็นมีใบอารัยมาว่าเลือดผมผิดปกติเเต่ผ่านมาสักปีกว่าถึง2ปีเเม่ผมเคยบอกว่าเเม่ชอบไปบริจากเลือดเป็นประจำเเล้วมาครั้งที่19ทางสภาก็เเจ้งให้เเม่ผมทราบว่าเลือดผิดปกติคือมีเชื้อพื่งเลิ่มเเล่วอาการอย่างนี้ผมมีโอกาสติดเชื้อมั้ยคับยังใงช่วยตอบทีนะคับผมกุ้มใจมากคับ   wut123_@msn.com ชอบเมลมาบอกผมทีนะคับผมยังมีน้องต้องดูเเลเเทนทั่นอีก2คนตอนนี้ผมเครียดมากคับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ช่วยบอกทีคับ วันที่ตอบ 2010-07-08 09:03:24


ความคิดเห็นที่ 5 (4017870)

ถ้าคนเราเปลี่ยนเลือดได้เหมือนเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องก็ดีสิ !!!

ผู้แสดงความคิดเห็น ยอดหญิง วันที่ตอบ 2016-09-21 11:01:51



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.