ReadyPlanet.com


ศาสนาพุทธมีอายุ5000ปีจริงหรือ


ก่อนอื่นข้าพระพุธเจ้าต้องขออภัยที่ได้เอามาโพสเผื่อว่าโยมเเละศิษของวัดจะมากเปิดดูเเละ อ่านกระทู้ของข้าพระพุธเจ้า เเต่มิได้คิดจะปรามาศพระสงฆ์เเต่พระการใจเจ้าค่ะ สมเด็จพระบรมกษัตริย์ตรัสถามว่า “ข้าแต่พระนาคเสน ด้วยสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสคำนี้ว่า “ดูก่อนอานนท์ บัดนี้พระสัทธรรมจักตั้งอยู้เพียง ๕,๐๐๐ ปี เท่านั้น แต่ในเวลาจะปรินิพพาน สุภัททปริพาชก ทูลถาม ได้ตรัสอีกว่า “ดูก่อนสุภัททะ ถ้าภิกษุเหล่านี้ ยังปฎิบัติชอบอยู่โลกก็จักไม่ว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย” คำนี้เป็นคำไม่มีเศษ เป็นคำเด็ดขาด ถ้าสมเด็จพระบรมโลกนาถได้ตรัสไว้ว่า “โลกจักไม่ว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย” ดังนี้ เป็นคำจริงแล้ว คำที่ว่า “บัดนี้พระสัทธรรมจักตั้งอยู่เพียง ๕,๐๐๐ ปีเท่านั้น” ก็ผิด ถ้าคำว่า “พระสัทธรรมจักตั้งอยู่เพียง ๕,๐๐๐ ปีเท่านั้น” เป็นคำถูก คำที่ว่า “โลกจักไม่ว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลายนั้น” ก็เป็นคำผิด ปัญหานี้เป็นอุภโตโกฏิ โปรดแก้ไขให้โยมสิ้นสงสัยด้วยเถิด” พระนาคเสนถวายวิสัชนาว่า “ขอถวายพระพร ถูกทั้งสอง คือคำที่ สมเด็จพระชินวรตรัสไว้ว่า พระสัทธรรมจักตั้งอยู่เพียง ๕,๐๐๐ ปีเท่านั้น ก็เป็นคำที่ถูก ส่วนที่ตรัสไว้ว่า ถ้าภิกษุเหล่านั้นยังปฎิบัติชอบอยู่ โลกก็จักไม่ว่าจากพระอรหันต์ทั้งหลายนั้นก็ถูก คำทั้งสองนั้นมีอรรถพยัญชนะต่างกัน คำหนึ่งเป็น สาสนปริจเฉท คือ เป็นคำกำหนดพระศาสนา อีกคำหนึ่งเป็น ปฎิปัตติปริทีปนา คือ เป็นการแสดงซึ่งปฎิบัติ เป็นอันว่าคำทั้งสองไกลกันมาก ไกลกันเหมือนแผ่นดินกับแผ่นฟ้า เหมือนกับนรกกับสวรรค์ เหมือนกับกุศลกับอกุศล และเหมือนทุกข์กับสุขฉะนั้น แต่ว่าอย่าให้พระดำรัสถามของมหาบพิตรเป็นโมฆะเลย อาตมาภาพจักแสดงคำทั้งสองนั้น ให้เข้าเป็นอันเดียวกันได้ คือคำที่ตรัสว่า “พระสัทธรรมจักตั้งอยู่เพียง ๕,๐๐๐ ปีเท่านั้น” เป็นการกำหนดความหนดตั้งอยู่แห่งพระสัทธรรม คือถ้าภิกษุณีไม่บรรพชา พระสัทธรรมจักตั้งอยู่ถึง ๕,๐๐๐ ปี เมื่อพระตถาคตเจ้าตรัสอย่างนี้ ชื่อว่าตรัสถึงความอันตรธานแห่งพระสัทธรรม หรือชื่อว่าปฎิเสธการบรรลุมรรคผลอย่างนั้นหรือ....มหาบพิตร ?” “ไม่ใช่อย่างนั้น พระผู้เป็นเจ้า” “ขอถวายพระพร เมื่อสมเด็จพระชินวรจะทรงกำหนดสิ่งที่หมดไปแล้ว จะทรงกำหนดสิ่งที่ยังเหลืออยู่ ก็ได้ทรงกำหนดไว้อย่างนั้น เหมือนอย่างบุรุษกำหนดของที่เหลือขึ้นแสดงแก่ผู้อื่นว่า ของเราหมดไปแล้วเท่านั้น นี้เป็นส่วนที่ยังเหลืออยู่ฉันใด เมื่อสมเด็จพระจอมไตรจะทรงกำหนดพระศาสนาที่หมดไป ก็ได้ทรงแสดงส่วนที่ยังเหลืออยู่ในท่ามกลางเทพยดามนุษย์ทั้งหลายว่า บัดนี้พระสัทธรรมจักตั้งอยู่เพียง ๕,๐๐๐ ปีเท่านั้น คำว่า พระสัทธรรมจักตั้งอยู่เพียง ๕,๐๐๐ ปีเท่านั้น เป็น สาสนปริเฉท คือเป็นการกำหนดพระศาสนา ส่วนคำที่ตรัสไว้ในเวลาจะปรินิพพานว่า “ถ้าภิกษุเหล่านี้ยังปฎิบัติชอบอยู่ โลกก็จักไม่ว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย” ดังนี้นั้น เป็นปฎิปัตติปริทีปนา คือเป็นการแสดงซึ่งปฎิบัติ ขอมหาบพิตรจงทรงกระทำ ปริทีปนา กับ ปริจเฉท ให้เป็นอันเดียวกัน ถ้ามหาบพิตรพอพระทัย อาตมภาพจักแสดงถวายให้เป็นอันเดียวกัน ขอมหาบพิตรอย่ามีพระทัยวอกแวก จงตั้งพระทัยสดับให้จงดีเถิด” [COLOR=darkgold,direction=-35);]อุปมาดังสระน้ำ [/color] เมื่อพระนาคเสนถวายพระพรอย่างนี้แล้วจึงถวายพระพรต่อไปอีกว่า “เหมือนอย่างสระน้ำเต็มเปี่ยมด้วยน้ำใหม่ มีน้ำเต็มเสมอปากขอบสระ เมื่อมีเมฆใหญ่ทำให้ฝนตกลงมาที่สระนั้นเนือง ๆ น้ำในสระนั้นจะแห้งจะหมดไปหรือไม่?” “ไม่แห้งไม่หมด พระผู้เป็นเจ้า” “เพราะอะไร มหาบพิตร ?” “เพราะฝนยังตกลงมาอยู่เนือง ๆ น่ะซิ พระผู้เป็นเจ้า” “ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละมหาบพิตร คือสระใหญ่อันได้แก่พระสัทธรรมที่เป็นพระศาสนาของสมเด็จพระชินสีห์ เต็มเปี่ยมด้วยน้ำใสสะอาด คือ อาจารคุณ ศีลคุณ ข้อวัตรปฎิบัติ สมเด็จพระทรงสวัสดิ์ได้ตรัสมรรคภาวนาไว้แล้ว ผู้ใดกระทำให้ฝนตกคือ อาจารคุณ ศีลคุณ ข้อวัตรปฎิบัติ ตกลงมาเนือง ๆ ผู้นั้นได้ชื่อว่าได้อบรมมรรคภาวนาไว้แล้ว เมื่อเป็นอย่างนั้นสระใหญ่ คือพระสัทธรรม อันเป็นพระศาสนาสุงสุดของสมเด็จพระบรมสุคต ก็จักตั้งอยู่ตลอดกาลนาน โลกก็จักไม่ว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย” สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหมายความอย่างนี้ จึงได้ตรัสไว้ว่าถ้าภิกษุเหล่านี้ยังปฎิบัติชอบอยู่ โลกก็จักไม่ว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย” [COLOR=darkgold,direction=-35);]อุปมาเหมือนกองไฟใหญ่ [/color] “ขอถวายพระพร เมื่อกองไฟใหญ่กำลังลุงรุ่งเรืองอยู่ มีคนทั้งหลายเอาหญ้าแห้งไม้แห้ง มูลโคแห้ง มาทิ้งเข้าในกองไฟใหญ่นั้นเรื่อย ๆ ไป กองไฟใหญ่นั้นจะดับไปหรือไม่ ?” “ไม่ดับเลย พระผู้เป็นเจ้า มีแต่จะลุกใหญ่เท่านั้น” ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร คือพระศาสนาอันประเสริฐของพระศาสดา ได้สว่างรุ่งเรืองอยู่ในหมื่นโลกธาตุ ด้วย อาจารคุณ ศีลคุณ ข้อวัตรปฎิบัติ ถ้าศากยบุตรพุทธชิโนรสยังประกอบด้วยองค์ของผู้มีความเพียร ยังฝึกฝนดี ยังไม่ประมาท ยังเต็มในใจใน ไตรสิกขา (ศีล สมาธิ ปัญญา) ยังทำสิกขาให้บริบูรณ์ ทำจารีตและสีลสัมปทา (ถึงพร้อมด้วยศีล) ให้บริบูรณ์ พระศาสนาก็ยังมีพระภาคเจ้าทรงหมายความอย่างนี้ จึงได้ตรัสไว้ว่า ถ้าภิกษุเหล่านี้ยังปฎิบัติชอบอยู่โลกก็จักไม่ว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย” สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหมายความอย่างนี้ จึงได้ตรัสไว้ว่า ถ้าภิกษุเหล่านี้ยังปฏิบัติชอบ โลกก็ไม่ว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย” [COLOR=darkgold,direction=-35);]อุปมาเหมือนกระจก [/color] “อีกปราะการหนึ่ง กระจกอันบุคคลขัดดีแล้ว ทำให้ผ่องใสดีแล้ว และมีผู้ขัดอีกเนือง ๆ กระจกนั้นจะมัวหมองได้หรือไม่ ?” “ไม่มัวหมอง พระผู้เป็นเจ้า มีแต่จะผ่องใสยิ่งขึ้นไป” “ขอถวายพระพร ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ คือพระศาสนาของสมเด็จภควันต์บรมศาสดาผ่องใสอยู่เป็นปกติ คือไม่มัวหมองด้วยกิเลสตัญหาแต่อย่างใด ถ้าพระพุทธบุตรเหล่านั้นศึกษาพระศาสนาอันประเสริฐนั้นไว้ได้ผ่องใส ด้วย อาจารคุณ ศีลคุณ ข้อวัตรปฎิบัติ สัลเลข (ขัดเกลา) ธุดงคคุณ อยู่แล้ว พระศาสนาก็จะตั้งอยู่ตลอดกาลนาน โลกนี้จักไม่ว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย พระพุทธศาสนามีการปฎิบัติเป็นราก มีการปฎิบัติเป็นแก่น ตั้งอยู่ได้ด้วยการปฎิบัติ” “ข้าแต่พระนาคเสน ข้อที่ว่า พระสัทธรรมอันตรธานนั้น มีอยู่กี่ประการ ?” [COLOR=darkgold,direction=-35);]อันตรธาน ๓ ประการ [/color] “ขอถวายพระพร อันตรธานนั้น มีอยู่ ๓ ประการ คือ ๑ อธิคมอันตรธาน (มรรคผลสูญหายไป) ๒ ปฎิบัติอันตรธาน (ข้อปฎิบัติสูญหายไป) ๓ ลิงคอันตรธาน (เพศสูญหายไป) เมื่อ อธิคมอันตรธาน แล้ว ถึงมีผู้ปฎิบัติดี ก็ไม่มีธรรมภิสมัย คือการได้รู้ยิ่งซึ่งธรรม เมื่อ ปฎิบัติอันตรธาน แล้ว สิกขาบทบัญญัติก็อันตรธาน ยังเหลือแต่เพศเท่านั้น เมื่อ ลิงคอันตรธาน แล้ว ก็ขาดประเพณี คือความสืบต่อแห่งเพศบรรพชิตในพระพุทธศาสนา อันตรธานมีอยู่ ๓ ประการเท่านี้แหละ มหาบพิตร” “ข้าแต่พระนาคเสน พระผู้เป็นเจ้าได้ทำปัญหาอันลึกให้ตื้นแล้ว ได้ทำลายข้อยุ่งยากแล้ว ได้ทำถ้อยคำของผู้อื่นหมดไปแล้ว ซึ่งความเป็นผู้องอาจในหมู่คณะอันประเสริฐ” [COLOR=darkgold,direction=-35);]อธิบาย [/color] ข้อความในวงเล็บ ผู้เรียบเรียงได้เพิ่มเติมไป เพื่อความเข้าใจ ฎีกามิลินท์ อธิบายคำว่า “พระสัทธรรม คือ ปฎิเวชสัทธรรม ได้แก่ มรรค ผล นิพพาน ส่วนผู้แปลหนังสือเล่มนี้อธิบายว่า เมื่อท่านอ่านตาม อรรถกถา ฎีกาแล้วนี้ ยังไม่สิ้นสงสัย ก็ขอให้อ่านคำอธิบายต่อไป คือคำว่า สาสนปริจเฉท แปลว่า กำหนดพระศาสนานั้น อธิบายว่า ได้แก่การกำหนดอายุพระพุทธศาสนาว่ามีอยู่ ๕,๐๐๐ ปี คำว่า ปฎิตติปริทีปนา แปลว่า กำหนดแสดงซึ่งการปฎิบัตินั้น หมายถึงผลแห่งการปฎิบัติ หรืออานุภาพแห่งการปฎิบัติว่า ถ้ายังปฎิบัติอยู่ตราบใด พระพุทธศาสนาก็จักยังตั้งอยู่ตราบนั้น คำทั้งสองนี้ถูกทั้ง ๒ คำ เปรียบเหมือนคำว่า อายุของผู้นั้นมีกำหนด ๑๐๐ ปี อีกคำหนึ่งว่า ถ้าธาตุทั้ง ๔ ของผู้นั้นยังปกติอยู่ตราบใด ผู้นั้นก็จักมีอายุอยู่ตราบนั้น ดังนี้ คำทั้งสองนี้ คำหนึ่งแสดงกำหนดอายุ อีกคำหนึ่งแสดงอานุภาพของธาตุ ๔ แต่ขอให้เข้าใจว่า อายุของผู้นั้นจักตั้งอยู่ได้เพียง ๑๐๐ ปีเท่านั้น แล้วธาตุทั้ง ๔ ของผู้นั้นก็ต้องวิปริตไป ข้อนี้มีอุปมาฉันใด พระพุทธพจน์ที่ตรัสไว้ก็ฉันนั้น ข้อสำคัญในปัญหาข้อนี้มีอยู่อย่างหนึ่ง คือข้อที่ว่า พระสัทธรรมจักตั้งอยู่เพียงแค่ ๕,๐๐๐ ปีนั้น ผิดจากที่กล่าวไว้ใน พระวินัยปิฎกและพระสุตตันตปิฎก ที่เป็นพระบาลีกับอรรถกถาฎีกา คือ ในพระบาลีอรรถกถาฎีกาว่า “ถ้าไม่มีภิกษุณี พระสัทธรรมจักตั้งอยู่พันปี เมื่อมีภิกษุณีแล้ว พระสัทธรรมจักตั้งอยู่ ๕๐๐ ปี่เท่านั้น” อันนี้เป็นคำในพระบาลี ส่วนในอรรถกถาว่า “เมื่อพระพุทธองค์ ทรงเล็งเห็นอย่างนั้น จึงได้ทรงบัญญัติครุธรรม ๘ ไว้ป้องกันเสียก่อน แล้วจึงทรงอนุญาติให้มีนางภิกษุณี” เมื่อทรงป้องกันแล้วก็ได้อีก ๕๐๐ ปี รวมกับ ๕๐๐ ปีที่เหลืออยู่นั้น จึงเป็นพันปีเท่ากับไม่มีนางภิกษุณี แล้วอธิบายไว้ตั้งแต่พันปีที่ ๑ ถึงพันปีที่ ๕ (รายละเอียดของดไว้) เมื่อสิ้น ๕ พันปีแล้ว อธิคมสัทธรรม คือผู้บรรลุมรรคผลก็สิ้นไป พระปริยัติธรรมก็หมดไปทีละน้อย ลงท้ายก็เหลือแต่เพศภิกษุที่มีผ้าเหลืองน้อยห้อยหู ทำไร่ไถนาเลี้ยงบุตรภารยา แล้วลงท้ายก็หมดผ้าเหลืองน้อยห้อยหู แม่เมื่อผู้ใดยังมีพระผู้จำพระพุทธวจนะได้เพียง ๑ คาถา อันกำหนดด้วยอักขระ ๓๒ ตัว เมื่อนั้นก็ยังเรียกว่า พระปริยัติศาสนายังอยู่ เมื่อไม่มีมนุษย์ผู้ใดในโลก จะจำพระพุทธวจนะเพียงคาถาเดียวได้ เมื่อนั้นแหละจึงเรียกว่า หมดพระศาสนาจริง ๆ และมีกล่าว เมื่อพระพุทธศาสนาคบ ๕,๐๐ ปีแล้ว พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าซึ่งอยู่ในที่ต่าง ๆ กัน จะเสด็จมารวมกันที่ไม้ศรีมหาโพธิ แล้วปรากฎเป็นองค์สมเด็จพระบรมสุคตขึ้น ทรงแสดงธรรมแก่เทพยดาอยู่ตลอด ๗ ทิวาราตรี เทพยดาหรือ ยักษ์ นาค ครุฑ อินท์ พรหม ผู้ใดเป็นธาตุเวไนย ผู้นั้นก็จักได้สำเร็จมรรค ผล นิพพาน ในคราวนั้น แล้วจวนรุ่งอรุณในคืนที่ ๗ พระบรมสารีริกธาตุที่ปรากฎเป็นพระพุทธเจ้าขึ้นนั้น ก็จะมีเพลิงธาตุเกิดขึ้น ถวายพระเพลิงเผาให้ย่อยยับไปไม่มีเหลือ เมื่อนั้นแหละเรียกว่า “ธาตุอันตรธาน” ดังนี้ ที่มา http://larnbuddhism.net/milintapanha/milin04_index.html


ผู้ตั้งกระทู้ waraporn :: วันที่ลงประกาศ 2008-02-18 01:45:17


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2354024)
111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111
ผู้แสดงความคิดเห็น 111 วันที่ตอบ 2008-05-02 10:58:31


ความคิดเห็นที่ 2 (2477079)
http://www.webwowgold.net
ผู้แสดงความคิดเห็น cyyinli วันที่ตอบ 2008-05-10 14:09:36


ความคิดเห็นที่ 3 (2477105)
<A href="wow">http://www.storeingame.com">wow gold</A>
ผู้แสดงความคิดเห็น cyyinli วันที่ตอบ 2008-05-10 14:11:51


ความคิดเห็นที่ 4 (2791806)
<A href="aoc">http://www.webwowgold.com/aoc-gold.htm">aoc gold,aoc powerleveling</A>
ผู้แสดงความคิดเห็น cyyinli วันที่ตอบ 2008-05-24 09:55:16


ความคิดเห็นที่ 5 (3075476)

สาธุ สาธุ สาธุ กล่าวชอบแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น พิชิต ขวัญชัยนนท์ (pichit3257-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-11-14 14:38:30


ความคิดเห็นที่ 6 (3292259)

โลกนี้ไม่มีอะไรเป็นของเราทั่งนั้น

ตั่งจิตไห้มั่นแล้วปลอยว่าง ทุกอย่างเกิดขึ่นแล้วก็ดับลงเป็นธรรมดา

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พระ วันที่ตอบ 2011-01-13 11:31:52


ความคิดเห็นที่ 7 (3310769)

หากเป็นเช่นนี้ ย่อมหมายความว่าอย่างน้อยอีก ๒,๔๔๖ ปี โลกก็จักยังคงอยู่ ไม่ถึงกาลพิบัติ ใช่หรือไม่

ผู้แสดงความคิดเห็น merlin วันที่ตอบ 2011-04-08 23:14:10


ความคิดเห็นที่ 8 (3347711)

 

 

 

 

 

Camiseta Seleccion Espa?ola  en un partido que la selección peruana equilibró con temple, mucha dignidad y dos jugadores de otra categoría: Paolo Guerrero y Juan Vargas,Camisetas del Madrid 2012 a Sebastián Coates. Celestes y blanquirrojos, dos equipos muy parecidos tácticamente, jugaron un primer tiempo físico y muy intenso, pero de pocas luces Equipacion del Barcelona

ผู้แสดงความคิดเห็น โลกก็จักยังคงอยู่ (joyl-at-gmx-dot-com)วันที่ตอบ 2011-12-06 14:33:28


ความคิดเห็นที่ 9 (3361384)

ผมสงสัยในข้อที่ว่า อีก1000ปี จะไม่มีพระอรหันต์ จึงได้หาข้อมูล เพราะขัดกับคำเชื่อที่มีคนบอกว่าในปัจจุบันที่ว่ายังมีพระอรหันต์

http://www.oknation.net/blog/Germany/2009/08/04/entry-1 <-------------เผื่อมีคนสงสัยแบบผมลองอ่านดูครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น DDT วันที่ตอบ 2012-03-03 03:13:47


ความคิดเห็นที่ 10 (3370440)

พุทธ์คือเปียนชีวิตตามสิ่งดี

ผู้แสดงความคิดเห็น กาส วันที่ตอบ 2012-05-02 20:29:55


ความคิดเห็นที่ 11 (3370441)

ชีวิตดีคือชีวิตไม้ทิ้งความดี นี้คือธรรมะ

ผู้แสดงความคิดเห็น กาส วันที่ตอบ 2012-05-02 20:37:00


ความคิดเห็นที่ 12 (3384788)

 Dans l"époque actuelle, l"industrie defabrication de sacs est la production de gammes polyvalentes et les Sac À Main Longchamp Pas Cher collections de leurs créations qui sont disponibles pour les personnes dans les gammes de prix variées leur permettant d"acheter des sacs parfaits qui non seulement répondent à leurs exigences, mais aussi, leurs préférences et les budgets .Si vous ne sac à main longchamp dos tissus pouvez pas noter des répliquesde sacs de créateurs de qualité supérieure, vous perpétuellement fouiller pour eux en ligne.Alors que Sac Longchamp Pliage Jeremy Scott Pour Longchamp le marché pour les sacs à main Burberry a progressé dans le monde réel, les options pour les sacs à main Burberry ont également augmenté dans les Sac Longchamp Pas Cher4 marchés virtuels où plusieurs détaillants et les concessionnaires ont fait usage de leurs sites Web, de fournir des options sans fin dans les collections sacs à main Burberry pour répondre les besoins et les go?ts des femmes de l"époque actuelle.Sur les sites, vous remarquerez un grand assortiment de ces sacs à main designer artificiels version; vous de choisir celle qui convient à votre bon vogue.Comme mentionné précédemment, l"industrie de fabrication Burberry Sacs à main est d"expérimenter avec les différentes textures et les couleurs et sont à venir avec les styles contemporains dans les sacs à main Burberry tout en gardant à l"esprit les besoins des femmes appartenant aux diverses professions et les promenades de la vie.Les stratégies de paiement sont simples, et donc les choses sont livrés à l"intérieur quantité de temps.  

ผู้แสดงความคิดเห็น i (55858588-at-qq-dot-com)วันที่ตอบ 2012-07-28 15:37:10


ความคิดเห็นที่ 13 (3385895)

 พระพุทธศาสนาที่ว่า 5000 ปีนั้น มิเป็นจริงมิมีในพระไตรปิฏก พระพุทธเจ้าไม่เคยได้กล่าวเลยครับ

พระพุทธเจ้ากล่าวแค่ว่า

         ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี พระผู้มีพระภาคทรง พระนามว่า

เมตไตรย์ จักเสด็จอุบัติขึ้นในโลก พระองค์เป็นอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อม

ด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถี  ฝึกบุรุษที่ควรฝึกไม่มีผู้อื่น

ยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย

และกล่าวอีกว่า มนุษย์จักมีอายุเหลือ10ปี

          ดูกรภิกษุทั้งหลาย จักมีสมัยที่มนุษย์เหล่านี้มีบุตรอายุ ๑๐ ปี ใน     เมื่อมนุษย์มีอายุ

๑๐ ปี เด็กหญิงมีอายุ ๕ ปี จักสมควรมีสามีได้ 

      ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๑๐ ปี จักมีสัตถันตรกัปสิ้น ๗ วัน

มนุษย์เหล่านั้นจักกลับได้ความสำคัญกันเองว่าเป็นเนื้อ ศัสตราทั้ง   หลายอันคมจักปรากฏมีในมือของ

พวกเขา พวกเขาจะฆ่ากันเองด้วยศัสตราอันคม

จาก พระไตรปิฏก

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓ ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค

ท่านผู้ใดจักเชื่อหรือไม่เชือก็ลองพิจารณาดูเถิด

คำๆนี้พระศาสดาท่านเป็ผู้ตรัสเองเราควรพังคำผู้อื่นหรือศาสดาดีละ

ถามถามตนดู.....

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ณัฐภัค รอดสังวาลย์ (zxcvb_tra-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2012-08-06 22:51:27


ความคิดเห็นที่ 14 (4013880)

 อยากทราบว่า เมื่อครบ 5,000 ปี พระสารีริกธาตุจะมาประชุมเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วแสดงธรรมโปรดถึง 7 วัน อยู่ในพระสูตรเล่มไหนค่ะ เพราะบางคนพูดว่าไม่แสดงธรรม บางคนว่าแสดงธรรม กระผมจึงจะไปอ่านด้วยตัวเอง ขอผู้รู้จงชี้ทางด้วย ขอบคุณครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น zam7605@gmail.com วันที่ตอบ 2016-09-05 01:15:51



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.